top of page

ขั้นตอนการสารภาพบาปกับพระสงฆ์คาทอลิก

1. สวดภาวนา
เราควรเริ่มต้นด้วยการสวดภาวนา ทำตัวเราให้อยู่ต่อหน้าพระเจ้าพระบิดาผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา “เชิญเสด็จมา ข้าแต่พระจิตเจ้า เชิญเสด็จมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ และทรงบันดาลให้ลุกร้อนด้วยความรักของพระองค์ โปรด
ประทานพระจิตของพระองค์และสรรพสิ่งจะอุบัติขึ้นมา แล้วพระองค์จะทรงเนรมิตแผ่นดินขึ้นใหม่

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงสอนใจสัตบุรุษด้วยการส่องสว่างของพระจิต โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายซาบซึ้งในความเที่ยงธรรมโดยพระจิตนั้น และโปรดให้ได้รับความบรรเทาจากพระองค์ท่านเสมอ เดชะพระคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า
ทั้งหลาย อาแมน”
“ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ลูกกราบแทบพระบาท วอนขออภัยโทษจากพระองค์ ลูกปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะละทิ้งหนทางของปีศาจ โปรดประทานความสว่างให้ลูกมองเห็นตัวเองอย่างที่พระองค์ทรงมองเห็น และโปรดให้ลูกเป็น
ทุกข์เสียใจอย่างแท้จริงที่ได้ทำบาปผิดต่อพระองค์

ข้าแต่พระแม่มารีย์ โปรดช่วยลูกให้
สารภาพบาปอย่างดีด้วยเถิด อาแมน”


2. พิจารณามโนธรรม
ด้วยจิตใจที่อยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักเช่นนี้ เราควรพิจารณาดูชีวิตของเราตั้งแต่การแก้บาปครั้งสุดท้ายพยายามหา ความคิด คำพูด และการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับความรักของพระเจ้าและบทบัญญัติของพระองค์ รวมทั้งบทบัญญัติของพระศาสน จักรด้วยเกณฑ์ในการพิจารณามโนธรรมต่อไปนี้ช่วยแนะนำเราในสิ่งที่เราอาจไม่รู้หรือไม่ได้ตระหนักถึง ว่าเราได้ตอบสนองความรักของพระเจ้ามากน้อยเพียงใด อีกทั้งช่วยพัฒนามโนธรรมของเรา และทำให้เราเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างดีและศักดิ์สิทธิ์หากจำเป็น เราอาจจดบาป (โดยเก็บเป็นความลับ) เพื่อช่วยความจะได้สารภาพบาปอย่างครบถ้วน

3. เป็นทุกข์ถึงบาป
เพื่อจะนำไปสู่ศีลอภัยบาป เราจำเป็น
ต้องเป็นทุกข์เสียใจต่อสิ่งที่เราได้กระทำลงไป
แรงจูงใจให้เป็นทุกข์เสียใจนี้อาจเป็นได้ทั้ง
เพราะรักพระเจ้า หรือเพราะกลัวผลที่จะตาม
มาจากการทำผิดต่อพระองค์
ไม่ว่าจะมีแรงจูงใจอย่างไรก็ตาม การ
เป็นทุกข์ถึงบาปคือจุดเริ่มต้นของการอภัย
บาป บาปจะไม่มีทางได้รับการอภัยหากเรา
ไม่เป็นทุกข์เสียใจ ตั้งใจจะไม่ทำบาปอีก แล้ว
หันกลับมาหาพระเจ้าเราไม่มีทางแน่ใจว่าจะไม่ทำบาปอีกก็จริง แต่อย่างน้อยความตั้งใจในขณะนั้นจะต้องซื่อตรง และเป็นจริง เราต้องปรารถนา
ที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองและจะซื่อสัตย์ต่อ
พระเยซูเจ้า และตั้งใจแน่วแน่ที่จะเริ่มย่างก้าว
เพื่อทำให้ความซื่อสัตย์นั้นเป็นไปได้การให้อภัยของพระเยซูเจ้าเรียกร้องความมุ่งมั่นเช่นนี้เสมอ “ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก” (ยน 8:11)

เป็นทุกข์ถึงบาป

แก้บาป
เราอาจเลือกแก้บาปอย่างเปิดเผยต่อหน้าพระสงฆ์ตัวต่อตัว หรือโดยมีฉากกั้นระหว่างเรากับพระสงฆ์ในที่ฟังแก้บาปก็ได้
1. คุกเข่า ทำสำคัญมหากางเขน“เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตรและพระจิต อาแมน”
(แล้วกล่าวว่า)

“คุณพ่อที่เคารพ ลูกปรารถนาจะคืนดี
กับพระเจ้า และกับเพื่อนพี่น้อง ขอคุณพ่อ
โปรดอวยพรลูกด้วย
- ลูกไม่ได้แก้บาปมานาน........วัน/
สัปดาห์/เดือน/ปี
- พระสงฆ์ได้ยกบาปแล้ว หรือยัง ?
- กิจใช้โทษบาปได้ทำแล้ว หรือยัง ?”
(หากพระสงฆ์ยังไม่ได้ยกบาป หรือ
กิจใช้โทษบาปยังไม่ได้ทำ ให้บอกว่าเพราะ
เหตุใด)
2. บอกบาปต่างๆ ที่ได้กระทำ(ให้บอกแต่ละบาปที่เราได้กระทำ รวมถึงกรณีแวดล้อมที่อาจทำให้บาปนั้นหนักขึ้นหรือเบาลง และจำนวนครั้งที่ได้ทำบาปนั้นด้วย จนแน่ใจว่าได้สารภาพบาปหนักหมดแล้ว หากเราไม่แน่ใจว่าบาปไหนหนักหรือเบาให้ถามพระสงฆ์ อย่างไรก็ตาม การสารภาพ
บาปเบาด้วยก็จะยิ่งช่วยเราให้หลีกเลี่ยงการ
ทำบาปได้มากขึ้น เราอาจปรึกษาเกี่ยวกับ
เหตุการณ์ สภาพแวดล้อม และแก่นแท้อัน
เป็นสาเหตุให้เราทำบาป หรือขอคำแนะนำ
และแนวทางดำเนินชีวิตจากพระสงฆ์ด้วยก็ได้)

“ลูกได้ทำบาป........... จำนวน......ครั้ง
............ จำนวน......ครั้ง”
(บอกบาปหมดแล้ว ให้ลงท้ายว่า)
“และขอสารภาพบาปอื่นๆ ที่ได้ลืมไป
และที่ได้ทำมาตลอดชีวิตด้วย”

3. ตั้งใจฟังพระสงฆ์เทศน์เตือนใจรับกิจใช้โทษบาปที่พระสงฆ์กำหนดและสวดบทแสดงความทุกข์ให้พระสงฆ์ได้ยิน (กรณีมีผู้รอแก้บาปจำนวนมาก พระสงฆ์อาจกำหนดให้สวดบทแสดงความทุกข์นอกที่ฟังแก้บาปก็ได้)

“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจ
ที่ได้ทำบาป เพราะบาปเรียกร้องการลงโทษ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บาปทำเคืองพระทัย
พระองค์ ผู้ทรงความดีและทรงสมควรได้รับ
ความรักจากมนุษย์ทั้งมวล เดชะพระหรรษ
ทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำ
บาปอีกเลย จะหลีกหนีโอกาสบาป และจะ
พยายามใช้โทษบาป โปรดทรงพระกรุณา
อภัยบาปแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิดอ อาแมน” 

 

4. พระสงฆ์สวดบทอภัยบาป
(หลังจากพระสงฆ์สวดบทอภัยบาป “....
ข้าพเจ้าจึงอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน เดชะ
พระนาม พระบิดา และพระบุตร † และพระ
จิต”

แล้ว ให้ทำสำคัญมหากางเขน)
“เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร
และพระจิต อาแมน”


bottom of page